วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

HipHop และ R&B และ K-Pop

HipHop และ R&B และ K-Pop
กล่าวนำก่อน สาวกเกาหลีแบบ "เดนตาย" กรุณาอย่าอ่านถ้าท่านไม่เปิดใจรับฟัง ขอบคุณ




วันนี้ ผมอยากจะกล่าวเรื่องการแบ่งประเภทของดนตรี..ครับ อย่างที่ทราบๆกันครับว่าเดียวนี้ แนวดนตรีที่กล่าวมาด้านต้นเนี้ย ใกล้กันมาก (ในสายตาบางคน) วันนี้ละผมจะมาอธิบายว่าอะไร Hiphop อะไร R&B (ส่วน K-pop ไม่ขอพูดถึงแต่อาจจะยกตัวอย่างนิดๆหน่อยๆ)

Hiphop

ดนตรีแนวนี้ ส่วนใหญ่จะง่ายๆ มี "BEAT" มี "RYHM" ก็กลายเป็น Hiphop ได้
คำ ว่า Hiphop เนื้อหาเพลงแนวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอะไรๆที่ "ใต้ดินหน่อย" เกี่ยวกับความรุนแรง ยาเสพติด Sex การพนัน ซะส่วนใหญ่ และ "Hiphop จะไม่มาในหมาด Boy Band หรือ Girl Group"

R&B

ในทีนี้ Pop R&B กับ Hiphop R&B ต่างกันนะครับ Pop R&B คิดถึง เพลงของหญิงบริทเข้าไว้ จะแนวๆนั้น ส่วน Hiphop R&B จะเป็น แนวๆ Ne-Yo , Usher , Trey Song ****
R&B เดิมๆล้วนๆเลยคิดถึง Ray Charles เข้าไว้
****New R&B จะเป็น แนวๆ แม่หมี หญิงวิท ป้าซิลิน
****Hiphop R&B เนื้อหาจะดูเบาลงมาหน่อยส่วนใหญ่จะไปทางรักๆใคร่ๆหวานๆ เพลงจะไปทางแดนซ์หรือป๊อปและจะเจือๆกลิ่น Hiphop

เอาละเรามาพูดถึง จำกัดความคำว่า Hiphop กัน

หลายๆคนมักเข้าใจว่าเพลงที่ร้อง Rap ส่วนใหญ่จะเป็น Hiphop อันนี้ขอบอกว่า คุณเข้าใจผิดเลย คำว่า Hiphop มีอะไรมากกว่านั้นเยอะ.. !!
Hiphop บ่งบอกถึงตัวตน
Hiphop บ่งบอกถึงความคิด
Hiphop บ่งบอกถึงความเข้าใจ

แต่เสื้อผ้าไม่ได้บ่งบอก เพียงแต่มันจะช่วยทำให้คุณดู Hiphop เท่านั้นเอง
(แนว Street กับ Hiphop ก็ต่างกันนะ)

ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็เหมือนกับ Emo กับ Punk เลยครับไม่ต่างกัน

เหมือนกันพวก Hiphop แบบ Real เลยจะหยี R&B
(แต่ปัจจุบันได้รับการยอมรับแล้ว เลยลายเป็น Hiphop R&B)

ยกตัวอย่างศิลปิน

Hiphop (ที่ยังคงมีผลงานอยู่)

Snoop Dogg , 50 Cent , The Game , Eminem , Soulja Boy (คนนี้จะเป็น New Hiphop)
------------------------------------------------------------------------

Hiphop R&B (หรือ ปัจจุบันกลายเป็น R&B เฉยๆไปแล้ว)

Usher , Trey Song , Ne-Yo , Akon , Taio Cruz , Jason Derulo เป็นต้น


(ข้อความต่อไปนี้อันตราย)

แล้วอย่าง Bigbang 2ne1 เนี้ย ถ้าคนที่ฟัง Hiphop จริงๆเค้าจะบอกว่า ศิลปินพวกนี้เป็น Pop Dance ไม่ก็ Pop R&B ไม่ใช่ Hiphop นะครับ (มองแบบมาตราฐานสากล)

เพราะยังขาดความ Real ที่จะเป็น Hiphop อีกเยอะมาก ไว้คุณฟัง Snoop Dogg หรือ 50 Cent แล้วเข้าใจเมื่อไรคุณจะรู้เองว่า " Real " คืออะไร

ที่เอามาพูดนี้ก็ ไม่ใช่ว่าจะมีเจตนาแบ่งแยกหรือดูถูกอะไรนะครับ เพียงแค่อยากให้หลายๆคนได้เข้าใจว่า Hiphop คืออะไร จะได้แบ่งแยกถูก เอาไว้เป็นความรู้
วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

The making of "nextwall"

การประดับตกแต่ง

 
The practice of putting up special decorations at Christmas has a long history. From pre-Christian times, evergreen plants had been brought indoors throughout the Roman Empire. Such customs were eventually adapted for Christian usage.

In the fifteenth century it is recorded that in London it was the custom at Christmas for every house and all the parish churches to be "decked with holm, ivy, bays, and whatsoever the season of the year afforded to be green". The heart shaped leaves of ivy were said to symbolise the coming to earth of Jesus, while holly was seen as protection against pagans and witches, its thorns and red berries held to represent the Crown of
Thorns worn by Jesus at the crucifixion.
.. การประดับตกแต่ง ..

Nativity scenes are known from 10th century Rome, and were popularised by Saint Francis of Asissi from 1223, quickly spreading across Europe. Many different types of decorations developed across the Christian world, dependant on local tradition and available resources. The first commercially produced decorations appeared in Germany in the 1860s, inspired by the paper chains made by children.

ธรรมเนียม ปฏิบัติในการตกแต่งเครื่องประดับที่สวยงามในเทศกาลคริสต์มาสมีประวัติอันยาว นาน นับตั้งแต่ยุคก่อนคริสตศักราชจะเริ่มต้นขึ้น พืชใบเขียวถูกนำมาใช้
โดย จักรวรรดิโรมันอย่างต่อเนื่อง ธรรมเนียมปฏิบัตินี้ได้ถูกดัดแปลงให้เหมาะสมกับการใช้งานของชาวคริสเตียน ในศตวรรษที่ 15 ได้มีการบันทึกไว้ว่า ที่เมืองลอนดอนบ้านทุกหลังฏิบัติตามประเพณีของเทศกาล และทุก ๆ โบสถ์ของที่นี่ ก็ประดับประดาเต็มไปด้วยไม้ฮอลลี่ไอวี่ ต้นอบเชย และพืชในฤดูกาลที่เป็นสีเขียว รูปทรงหัวใจของใบไม้จากต้นไอวี่ถูกเรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของการมาเยือนโลก ของพระเยซู ในขณะที่ต้นฮอลลี่ถูกมองว่าเป็นเครื่องรางป้องกันความชัวร้ายจากพวกนอกรีต และแม่มด, พืชมีหนามและผลไม้ลูกเล็ก ๆสีแดงถูกเปรียบว่าเป็นเสมือน Crown of Thorns ที่พระเยซูสวมใส่ ในขณะที่ถูกตรึงอยู่บนกางเขนจนตาย

การ แสดงเกี่ยวกับวันประสูติของพระเยซู เป็นที่รู้จักกันตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ของโรมและถูกทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้นโดย Saint Francis of Asissi ในปี 1223 และแพร่หลายอย่างรวดเร็วไปยังดินแดนทวีปยุโรป เครื่องประดับในเทศกาลนี้หลายต่อหลายชิ้นได้ถูกวิวัฒนาการมาจากโลกของชาว คริสเตียน ซึ่งดำรงชีวิตอยู่กับวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น และทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ส่วนผลิตภัณฑ์เครื่องประดับชิ้นแรกที่ถูกใช้ใน เชิงพาณิชย์นั้น เกิดขึ้นที่ประเทศเยอรมันในปี 1860 โดยผลิตภัณฑ์นั้นก็คือ โซ่กระดาษ ที่ออกแบบและทำขึ้นโดยกลุ่มเด็กเล็ก

The Christmas tree is often explained as a Christianisation of pagan tradition and ritual surrounding the Winter Solstice, which included the use of evergreen boughs, and an adaptation of pagan tree worship. The English language phrase "Christmas tree" is first recorded in 1835 and represents an importation from the German language. The modern Christmas tree tradition is believed to have begun in Germany in the 18th century though many argue that Martin Luther began the tradition in the 16th century. From Germany the custom was introduced to Britiain, first via Queen Charlotte, wife of George III, and then more successfully by Prince Albert during the reign of Queen Victoria, and by 1841 the Christmas tree had become even more widespread
throughout Britain. By the 1870s, putting up a Christmas tree had become common in America. Christmas trees may be decorated with lights and ornaments.

ต้น คริสต์มาสนั้น มักจะถูกมองว่าเป็นประเพณีของพวกเพเกน เป็นพิธีกรรมที่โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศช่วงฤดูหนาวที่มีช่วงเวลากลางวันสั้น ที่สุด ซึ่งจะตกแต่งสถานที่ด้วยกิ่งก้านของพืชสีเขียวทั้งนี้ก็เป็นการแสดงออกถึง ความเคารพที่พวกเพเกนมีต่อต้นไม้

วลี ภาษาอังกฤษที่ว่า "Christmas tree" ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกในปี 1835 โดยระบุว่ามีรากฐานมาจากภาษาเยอรมัน เพราะธรรมเนียมของต้นคริสต์มาสสมัยใหม่นั้นเริ่มมีขึ้นที่ประเทศเยอรมันใน ช่วงศตวรรษที่ 18 แม้ว่าจะมีหลายคนโต้เถียงว่าเป็น มาร์ติน ลูเธอร์ที่ริเริ่มธรรมเนียมนี้ขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 16 ก็ตาม

ธรรมเนียม นี้ถูกถ่ายทอดจากเยอรมันมาสู่อังกฤษผ่านทางพระราชินี ชาร์ลอตแห่งองค์กษัตริย์จอร์จที่สามซึ่งหลังจากนั้นความนิยมก็เพิ่มขึ้นตาม ลำดับโดยเจ้าชายอัลเบิร์ธระหว่างการครองราชย์ของราชินีวิคตอเรีย แล้วความนิยมในต้นคริสต์มาสก็เริ่มขยายวงกว้างไปทั่วอังกฤษในช่วงปี 1841 จนกระทั่งช่วงปี 1870 ต้นคริสต์มาสก็กลายมาเป็นธรรมเนียมสามัญของชาวอเมริกัน ซึ่งต้นคริสต์มาสอาจจะถูกประดับประดาด้วยดวงไฟสีสันต่าง ๆ และเครื่องประดับต่าง ๆ ด้วย

Since the 19th century, the poinsettia, a native plant from Mexico, has been associated with Christmas. Other popular holiday plants include holly, mistletoe, red amaryllis, and Christmas cactus. Along with a Christmas tree, the interior of a home may be decorated with these plants, along with garlands and evergreen foliage.

ต้นไม้ พื้นเมืองแมกซิโก ชื่อต้น poinsettia เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับวันคริสต์มาสตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 นอกจากนี้ยังมีต้นไม้อื่นๆอีกที่ได้รับความนิยมในช่วงคริสต์มาสซึ่งได้แก่ ฮอลลิ มิสเซิลโท แอมมะริลลิสสีแดง และตะบองเพชรคริสต์มาส ซึ่งนอกจากต้นคริสต์มาสแล้ว
ผู้คนก็นิยมนำไม้ประดับสวยงามที่กล่าวไว้ข้างต้นมาใช้ประดับบ้านเรือนควบคู่ไปกับ พวงดอกไม้ และพืชใบสวยงามชนิดอื่น ๆ ด้วย

In Australia, North and South America, the British Isles, and to a lesser extent continental Europe, it is traditional to decorate the outside of houses with lights and sometimes with illuminated sleighs, snowmen, and other Christmas figures. Municipalities often sponsor decorations as well. Christmas banners may be hung from street lights and Christmas trees placed in the town square.

มี ธรรมเนียมในการตกแต่งรอบ ๆ นอกบ้านด้วยไฟและสิ่งของที่เป็นประกาย รถลากเลื่อนตุ๊กตาหิมะ และสิ่งของอื่น ๆ ที่ให้ความหมายถึงวันคริสต์มาส ในออสเตรเลีย อเมริกาเหนือและใต้เกาะอังกฤษ และชนกลุ่มน้อยแถบขอบทวีปยุโรป ในส่วนของทางการเองก็จะสนับสนุนการตกแต่งนี้เช่นกันด้วยการแขวนป้าย คริสต์มาสไว้บนไฟทางข้างถนน และมีการตั้งต้นคริสมต์มาสไว้ในใจกลางเมืองด้วย

In the Western world, rolls of brightly colored paper with secular or religious Christmas motifs are manufactured for the purpose of wrapping gifts. The display of Christmas villages has also become a tradition in many homes during this season. Other traditional decorations include bells, candles, candy canes, stockings, wreaths, and angels.

ใน ประเทศโซนตะวันตก กระดาษม้วนสีสดใส ซึ่งมีทั้งแบบที่สื่อความหมายถึงประเพณีทางศาสนา และแบบที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาได้ถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้สำหรับห่อของขวัญ นอกจากนี้ ผู้คนได้รับอิทธิพลจากหมู่บ้านคริสต์มาส จนกลายมาเป็นประเพณีที่ยึดถือและปฏิบัติกันในหลาย ๆ ครอบครัว ส่วนเครื่องประดับตกแต่งสถานที่ที่กลายเป็นที่นิยมกันนั้น ได้แก่ ระฆัง กระดิ่ง เทียนไข ทอฟฟี่มีรูปร่างเป็นแท่งเป็นลายขาวแดง ถุงเท้ายาว พวงมาลัย และเทพยาดา

In many countries a representation of the Nativity Scene is very popular,and people are encouraged to compete and create most original or realistic ones. Within some families, the pieces used to make the representation are considered a valuable family heirloom.

ฉากการประสูติของพระเยซูก็เป็นที่นิยมในหลายประเทศ โดยมีการจัดประกวดการสร้าง
ฉากดังกล่าวทั้งในแบบดั้งเดิม และแบบที่เหมือนจริง ซึ่งในบางครอบครัวก็ถือเอาชิ้นส่วนของฉาก
ดังกล่าวเป็นเหมือนมรดกอันล้ำค่าของครอบครัว

Christmas decorations are traditionally taken down on Twelfth Night, the evening
of January 5. The traditional colours of Christmas are pine green (evergreen), snow white, and heart red.

จะมีการประดับประดาด้วยบรรยากาศของวันคริสต์มาสถึง 12 คืน จนถึงค่ำของวันที่ 5 มกราคม
สีประจำของวันคริสต์มาสคือสนสีเขียว หิมะสีขาว และหัวใจสีแดง
วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นิทานหลอกเด็ก - ฟักกลิ้ง ฮีโร่

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

LA BKK - Joey Boy & Will.i.am

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

คำศัพท์็ HipHop


Battle = การดวลแข่งขัน ใช้ได้ทุกสาขาของฮิปฮอป
Bling Bling = เครื่องประดับที่วิ้งๆที่เด็กฮิปฮอปชอบใส่กันไม่ว่าจะเป็นต่างหู สร้อยคอ แหวน
Corn rolls = ทรงผมที่ถักติดหนังหัวแบบตะขาบเหมือน Alicia Keys
Crew = กลุ่มแก๊งของชาวฮิปฮอปความหมายเดียวกับทีม
Dawg = มาจากคำว่า Dog ซึ่งในที่นี้หมายถึงเพี่อน
Flow = จังหวะการแร็ปที่ลื่นไหล มีเว้นช่องไฟที่ดี
Graffiti = การพ่นกำแพงด้วยสเปรย์ (ทำให้เป็นศิลปะด้วยนะ)
MC = Master Of Ceremony นักร้องแร็ปที่ถือ Mic มันส์ไปกับคนดู
Mix type = การนำบีตคนอื่นมาร้อง ซึ่งเป็นการร่นระยะเวลาในการทำบีต ตามวัฒนธรรมฮิปฮอปแล้วกรณีนี้แตกต่างจากเพลงไทยที่เอาดนตรีเค้ามาร้องแล้ว ไม่ให้เครดิต
Nah Mean = ย่อมาจาก Do You Know what i mean?
Rhyme = กาพย์กลอนเพลงแร๊ปทั้งหมดจะเรียกว่า Rhyme
Sista = ผู้หญิงผิวดำ
Shorty = ใช้เรียกแทนผู้หญิง
pig = ตำรวจ
Shorty =ผู้หญิง
thug = คนอันธพาล,คนเหลวไหล
pimp = แมงดา
kick ass = เจ๋ง
fag = เกย์ ,รักร่วมเพศ
kill = ฆ่า
bitch= โสเภณี
Afro =ทรงผมของคนดำ ที่ฟูๆ ดูแล้วเป็นกลมๆ
Beef= การไม่ถูกคอกัน , อวัยวะเพศชาย
Bend= โสเภณี
Bizzo= ผู้หญิง , คนที่หรูหรา
Boo= คำเรียกแสดงความรัก เหมือนกับ baby
butt= ก้น สิ่งที่ไม่ดี อ่อนหัด
booty= ก้น
Cateye= การมองไปที่ผู้หญิง/ชาย แบบตาหวานเหมือนอยากมี sex ด้วย
corn Rolls= ผมถักติดหนังหัว
Dick= อวัยวะเพศชาย
Fag= เกย์ พวกรักร่วมเพศ
dumm= โง่ มาจาก dumb
crap แครพ = (คำไม่สุภาพ)สิ่งที่ไม่มีค่า สิ่งที่ไร้ค่า
jerk เจิร์ค = ไอ้โง่ คนงี่เง่า
mega 'เมกกะ = ใหญ่
neat นีท = แจ๋ว เจ๋ง เยี่ยม
parental units พะ'เรนเทิล ยูนิทซฺ = พ่อแม่
pee = พี
pig พิก = (เป็นคำไม่สุภาพ) ตำรวจ
puke พวูค = อาเจียน อ้วก
slob สลอบ = คนสกปรก คนเลอะเทอะ
 
SAVEv1 © 2008. Template Design By: SkinCorner